19 กันยายน 2554 @ ผมเริ่มศึกษาข้อมูลภาพ Starry Night ของ Van Gogh แล้วสะท้อนถึงตัวเอง

สวัสดีครับ เพื่อนๆ บทความนี้อาจจะแตกต่างจากบทความปกติในบล็อก Preedano Painting ไปสักหน่อย เพราะน่าจะเป็นอารมณ์ หรือทัศนะ ความรู้สึกล้วนๆ ต่างจากที่ผมมาเล่านี่ นั่น โน่น ถึงงานต่างๆ ที่ไปทำกิจกรรมมานะครับ อยากพิมพ์ให้เพื่อนๆ ได้อ่าน เพราะใจสั่งให้พิมพ์นะครับ

คงต้องเกริ่นนำว่า เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2554 มีคุณณัฐนันท์ ได้ส่งอีเมล์มาถึงผมว่า ได้เคยดูภาพวาดด้วยกาแฟของผม ทางช่องทีวีไทย รู้สึกชอบ และส่วนตัวก็ชอบทานกาแฟ จึงสั่งซื้อภาพ และระบุบริจาคให้กับมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ แต่ประเด็นสำหรับผมอยู่ตรงที่ คุณณัฐนันท์ อยากให้ผมวาดภาพ "The Starry Night" ของ Van Gogh หรือ อยากให้เป็นแรงบันดาลใจ แล้ววาดภาพเพื่อคุณณัฐนันท์ขึ้นมา

ในใจผมนึกนะครับ "ต้องอย่างนี้สิ ชีวิตผม ต้องเจออะไรยากๆ มันถึงจะมีชีวิต" แล้วก็เร่งทำงานต่อ จนวันถัดมา คุณณัฐนันท์ก็ส่งอีเมล์ทักทายมาอีกครั้ง ผมจึงเริ่มเสริช์ค้นหาภาพ และอ่านข้อมูลของ Van Gogh เมื่ออ่านเสร็จ ทำให้ผมนึกถึงตัวผมเองขึ้นมาทันที เพราะว่า Van Gogh ผิดหวังจากความรัก และด้วยความที่วนเวียนใกล้เคียงอยู่กับงานศิลปะอยู่แล้วเป็นทุนเดิม จึงเริ่มมาเป็นศิลปินวาดภาพ ซึ่งผมคงไม่ทราบข้อเท็จจริงอะไรมากนัก ผมไม่แน่ใจว่า หญิงที่แวนโก๊ะรักนั้น เป็นแรงบันดาลใจให้กับเขา หรือว่า เขาไม่รู้จะทำอะไร เพียงแต่ว่า จากลำดับในชีวิตคือ แวนโก๊ะวาดภาพหลังจากที่เขาเสียใจ เมื่อรักไม่สมหวัง

ผมเริ่มวาดภาพเมื่อกลางปี 2553 เพราะงาน เป็นภาพเทคนิคสีน้ำ ประมาณ 45 ภาพ มีภาพหนึ่งที่วาดให้หญิงที่ผมรัก และเธอก็รักผม ณ ขณะนั้น ภาพนั้นคือภาพ "เสือซุ่ม" เพราะว่าเธอเกิดปีเสือ (ขาล) จนเมื่อเวลาต่อมาประมาณเดือนตุลาคม 2553 เธอได้บอกเลิกกับผม ซึ่งผมก็ต้องยอมรับ เพราะว่า มีมากมายหลายเหตุผลที่ผมไม่คู่ควรกับเธอ ผมเริ่มคิดมาก เมื่อเวลาว่างแม้เสี้ยววินาที ผมพยายามทำหลายๆ อย่าง หลายๆ เรื่อง เพื่อระลึกถึงเธอ หนึ่งในนั้นคือ เธอมีความตั้งใจว่า อยากเปิดร้านกาแฟ

ผมไม่แน่ใจตัวเองมากนักว่า เป็นเพราะผมกำลังค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการวาดภาพ ให้ตอบโจทย์ชีวิตของผม ที่ต้องการความง่าย ในการดำเนินชีวิต ประหยัดเวลา สะดวกในการวาดควบคู่กับการทำงาน ชีวิตต้องไม่วุ่นวาย หรือแม้แต่กระทั่งมิติ มุมมองที่กาแฟเป็นวัสดุ ที่มีอยู่แทบทุกครัวเรือน ซึ่งมันทำให้ศิลปะ ที่พร้อมจะเข้าถึงทุกคนในบ้านได้ทันที แบบไม่ต้องรีรอ ศิลปะขัดเกลาสภาวะจิตใจของมนุษย์ได้ กาแฟ มันง่ายขนาดนั้น เรื่องราวแรงบันดาลใจในการใช้กาแฟ มาวาดภาพ ที่ผมมักบอกหลายๆ คนที่ถาม หลายๆ คนที่สนใจ หรือแม้แต่ตอนที่ผมไปฝึกสอน แนะนำให้กับคนที่สนใจ

แต่มีอยู่เหตุผลหนึ่งที่สำคัญ และผมก็มั่นใจมาก เพราะว่า หญิงที่ผมรัก ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังรัก (รักข้างเดียว) อยากเปิดร้านกาแฟ "กาแฟ" อาจจะเป็นสิ่งเดียวในอนาคต ที่เชื่อมโยงถึงเธอได้ และมันทำให้ผมระลึกถึงเธอในเวลาที่ผมกำลังวาดภาพด้วยกาแฟ ภาพชุด 3 ภาพแรกที่ผมวาดด้วยกาแฟนั้น คือ "อรุณเจ้าพระยา" "ตรึงตราภูกระดึง" "รำพึงยี่เป็ง" ภาพทั้ง 3 ภาพนี้ เป็นสิ่งยืนยันถึงความรู้สึกที่ผมมีต่อเธอ เพราะว่า

"อรุณเจ้าพระยา" เป็นการแสดงอารมณ์เศร้าของผมที่บอกความรู้สึกคิดถึงเธอตลอดเวลา ช่วงเวลาพลบค่ำที่ทุกคนกำลังจะกลับบ้านเพื่อไปพบคนรัก ซึ่งผมคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว บรรยากาศเย็นๆ ค่ำๆ ของเจ้าพระยาสำหรับผมแล้วเศร้าพอสมควร

"ตรึงตราภูกระดึง" เป็นสถานที่ ที่เธอไปมาหลายครั้ง และเป็นสถานที่ ที่ผมไม่เคยไป แต่อยากไป ผมเคยคุยกันเล่นๆ กับเธอว่า "สงสัยว่าเธอจะไปแทนผม" ดังนั้นภาพนี้ จึงเป็นตัวแทน การระลึกถึงความรักที่เราเคยมีต่อกัน (สามารถดูภาพได้ที่กลางๆ ของเว็บบล็อกครับ)

"รำพึงยี่เป็ง" นั้นผมมีแรงบันดาลใจจากคำพูดของเธอว่า เธออยากไปอยู่ที่จังหวัดเชียงราย เธอชอบที่นั่น อากาศดี บั้นปลายชีวิตของเธออยากใช้ชีวิตที่นั่น การที่ได้วาดภาพนี้ ก็ทำให้ผมมีความสุข เหมือนได้รักและคิดถึงเธอ และผมก็ดีใจมากๆ ที่ภาพทั้ง 3 ภาพนี้ อยู่ที่คนๆ เดีวกัน คือ คุณสิทธิชัย โตจิราการ

คุณสิทธิชัย มาดูภาพวาดด้วยกาแฟ ของผมที่จัดแสดงที่ตลาดบองมาเช่ ประชาชื่น คุณสิทธิชัย ตัดสินใจซื้อเพียงภาพเดียว คือภาพ "อรุณเ้จ้าพระยา" ในวันแรกที่ได้ดูภาพ แต่เนื่องจากผมต้องแสดงภาพ 3 วัน จึงขอให้คุณสิทธิชัย มารับภาพในวันสุดท้าย ผมกลับไปนอนคิดที่บ้าน ความตั้งใจของภาพ 3 ภาพนี้ เป็นภาพชุดที่ผมไม่อยากให้แยกจากกัน ผมอยากให้ภาพทั้ง 3 ภาพอยู่ด้วยกัน ความรู้สึกของผม มันบอกผมอย่างนั้น มันจะสมบูรณ์แบบ ถ้าอยู่ที่ๆ เดียวกัน เจ้าของเดียวกัน ลึกๆ แล้วผมรักภาพทั้ง 3 ภาพนี้มาก แต่เพราะว่าผมก็อยากช่วยเหลือผู้อื่นเช่นกัน ดังนั้น ผมจึงไม่ลังเลใจที่จะขายภาพทั้ง 3 ภาพนี้ แล้วนำเงินที่ได้ไปบริจาค และผมก็หวังลึกๆ ว่า ภาพทั้ง 3 ภาพจะได้เจ้าของที่เห็นคุณค่าของภาพด้วย นอกเหนือจากการที่เขาคนนั้น ภูมิใจที่ได้ร่วมบริจาคเงินซื้อภาพ ทำประโยชน์เพื่อสังคม

และผมก็โชคดีมากที่ เจ้าของคนนั้น คือ คุณสิทธิชัย โตจิราการ เมื่อคุณสิทธิชัยมาถึงเพื่อรับภาพ "อรุณเจ้าพระยา" เพียงภาพเดียว ผมตัดสินใจคุยว่า ผมอยากให้คุณสิทธิชัย เป็นเจ้าของทั้ง 3 ภาพ คุณสิทธิชัย ขอตัดสินใจ และเดินไปดูภาพ ยืนพิจารณา อยู่พักใหญ่ และกลับมาหาผมพร้อมกับบอกผมว่า "ตกลง ผมซื้อทั้ง 3 ภาพ" ผมดีใจมากๆ จนไม่รู้จะบรรยายอย่างไร (สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้ครับ)

คุณณัฐนันท์ ทำให้ผมได้คิดถึงเธออีกครั้ง ผ่านเรื่องราวของ Van Gogh ผมมักบอกผู้คนว่า ผมตั้งใจแล้วว่า ผมคงไม่เอาดีในการวาดภาพ ให้เป็นศิลปินแต่อย่างใด ผมจะวาดภาพเป๊นงานอดิเรก วาดตามความรู้สึกชอบ รักที่จะวาด ขณะวาดก็เหมือนได้ระลึกถึงเธอ วาดบริจาคไปเรื่อยๆ เท่าที่จะมีกำลัง ทำประโยชนืเพื่อผู้อื่น ผมทำก็เหมือนเธอได้ร่วทำบุญกุศล ไปด้วยกัน เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า เธอเป็นส่วนหนึ่งของการที่ผมมาวาดภาพด้วยกาแฟ และจินตนาการไปว่า หากมีโอกาสคงได้มีความรักกับเธอีกครั้งครับ

ผมจะพยายามมองภาพของแวนโก๊ะ เพื่อรับความรู้สึก และจะรังสรรค์ภาพที่เน้นเรื่องความรู้สึก ในแบบที่ผมจะวาด ให้กับคุณณัฐนันท์ นะครับ เพื่อตอบแทน ที่ทำให้ผมได้ระลึกถึงเธอ (แบบเป็นเรื่องเป็นราว) รวมทั้งทำให้ผมได้ศึกษา้ข้อมูลของ Van Gogh ไปด้วยในตัวครับ

2 ความคิดเห็น:

  1. รูปใหม่ที่จะประมูล เอาให้นำโด่งไปเลยนะคะ

    ตอบลบ
  2. คุณปรีดา

    รู้สึกว่าเป็นเกียรติมากเลยค่ะ ที่ถูกกล่าวถึงในบทความ ไม่คิดเลยว่ารูปนี้จะมีประโยชน์รวมทั้งทำให้เราได้รู้จักคุณมากขึ้นด้วย

    จะรอชมภาพอย่างใจจดใจจ่อค่ะ
    ณัฐนันท์

    ตอบลบ

Visit me on Facebook

บทความที่ได้รับความนิยม 10 อันดับแรก